คลังเผย มีนิติบุคคลยื่นขอประกอบธุรกิจพิโคไฟแนนซ์แล้ว 5 ราย
คลังเผย มีนิติบุคคลยื่นขอประกอบธุรกิจพิโคไฟแนนซ์แล้ว 5 ราย
หลังจากที่รัฐเปิดโครงการพิโคไฟแนนซ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการปล่อยกู้หนี้นอกระบบให้หันมาเข้าสู่ระบบมากขึ้น โดยสามารถปล่อยกู้เพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป และสามารถคิดอัตราดอกเบี้ยพร้อมค่าธรรมเนียมได้ไม่เกิน 36% ต่อปี และสามารถจดทะเบียนด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น
ล่าสุดนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจสอบถามการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์เป็นจำนวนมาก และได้มีผู้ยื่นคำขออนุญาตแล้ว จำนวน 5 ราย
ซึ่งการยื่นขออนุญาตนั้น เป็นการยื่นคำขออนุญาตผ่านจุดบริการร่วมสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์ ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สาขาของธนาคารออมสิน และสาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องของเอกสารก่อนนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้การพิจารณาอนุญาตในลำดับต่อไป
สำหรับแนวทางการพัฒนาแหล่งเงินทุนสำหรับประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนปกติ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ออกประกาศกำหนดธุรกิจสินเชื่อประเภทใหม่ คือ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโคไฟแนนซ์ หรือ สยจ.) โดยให้นิติบุคคลที่สนใจยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจกับกระทรวงการคลังเมื่อได้รับอนุญาตแล้ว จะสามารถให้สินเชื่อกับประชาชนในจังหวัดในวงเงินไม่เกินรายละ 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย รวมค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใดๆ ไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี โดยโครงการนี้จะถือเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเข้ามาเป็นผู้ให้สินเชื่อในระบบอย่างถูกกฎหมาย และช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมมากขึ้น
สำหรับการดำเนินการกับเจ้าหนี้นอกระบบที่กระทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบในการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและจริงจัง รวมทั้งผลักดันให้เจ้าหนี้นอกระบบเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการปรับพฤติกรรมให้เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์ที่ถูกต้องตามกฏหมายต่อไป
1186 total views, 1 today
